สาวจีนใส่ชุดเที่ยวห้างจนเป็นไวรัล ชักภาพคู่มิกกี้เมาส์ ทำชาวเน็ตใจสั่นรัว ๆ

สาวจีนใส่ชุดเที่ยวห้างจนเป็นไวรัล ชักภาพคู่มิกกี้เมาส์ ทำชาวเน็ตใจสั่นรัว ๆ

ไวรัล สาวจีน ใส่ชุดเดินห้าง สไตล์การแต่งตัวผู้หญิงสบาย ๆ เน้นเปิดโล่ง แต่ทำคนเดินห้างอยู่ไม่เป็นสุข ชอตขยี้ใจชักภาพคู่มิกกี้เมาส์ อากาศร้อนแค่ไหนก็ไม่หวั่น สำหรับไวรัลเที่ยว่าสุด ซึ่งรายงานโดย เว็บไซต์ยาฮู เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังโลกออนไลน์ในประเทศจีนต่างพากันตะลึงและให้ความสนใจกับ หญิงสาวรายหนึ่งซึ่งแต่งกายด้วยลุคที่สุดชิล ขณะกำลังเดินเที่ยในห้าสงสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง

โดยชุดที่สาวคนดังกล่าวสวมใส่เป็นกางเกงยีนส์ขาสั้นพร้อมกับเสื้อกล้ามที่ดูแล้วแสนเบาบาง 

ผ่าหลัง โชว์พื้นผิวอันเนียนราบ แม้แต่เสื้อกล้ามของเธอก็ยังเปิดโล่งให้เห็นทั้งก้านหลังและด้านข้าง ชนิดมองกันทะลุปุโปร่งไปเลย

อย่างไรก็ตาม ชอตขยี้ใจคนเดินห้างไม่ได้อยู่ที่ลุคอันแสนโฉบเฉี่ยวของสาวแดนมังกรรายนี้เท่านั้น เพราะช่วงหนึ่งในคลิปขณะที่เธอกำลังเดินไปถ่ายรูปเซลฟี่กับ มิกกี้เมาส์ ตัวการ์ตูนชื่อดังของ วอลท์ดิสนีย์ จังหวะซึ่งกำลังยืนโพสต์ท่ากับชุดที่เธอสวมใสอยู่นั้น แทบไม่ปิดบังเรือนร่างด้านข้าง จนทำเอาคนที่ผ่านไปผ่านมแถวนั้น ต้องตค้างกันเป็นแถบเลยทีเดียว

ทั้งนี้ ไม่มีรายงานว่า หญิงสาวคนดังกล่าว คือใคร รวมถึงไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่า ภาพและคลิปดังกล่าว ถูกถ่ายไว้เมื่อใด โดยชาวเน็ตบางส่วนเข้ามา ระบุว่า คลิปดังกล่าว อาจจะถ่ายไว้นานแล้ว ก่อนจะถูกนำกลับโพสต์ซ้ำจนเป็นไวรัลโลกออนไลน์

กลายเป็นเรื่องราวที่นำไปสู่การถกเถียงหลัง คู่รักมี เซ็กส์บนระเบียง ของโรงแรม เพลินไปหน่อย เพราะแขกชั้นบนถ่ายรูปเก็บเป็นหลักฐาน เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม เว็บไซต์ HK01 ได้รายงาน เรื่องราวอื้อฉาวที่เกิดขึ้นในฮ่องกง โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่โรงแรมหนึ่ง หนึ่งในย่านนอร์ตพอยต์ ซึ่งห้องพักนั้นมีเป็นอ่างแช่น้ำแบบเปิดโล่งอยู่ที่ริมระเบียงของห้องพัก

เจ้าของโพสต์นั้นได้มองลงไปเห็น ชายหญิงคู่หนึ่งนั่งอยู่บริเวณดังกล่าวในสภาพเปลือยเปล่า ฝ่ายหญิงนั่งอยู่บนขอบสระและมือหนึ่งถืออาหาร ขณะที่ฝ่ายชาวมุดซุกส่วนร่างของฝ่ายหญิง กำลังเล่นบทสยิวกลางวันแทรกๆกลางที่สาธารณะ

หลังจากที่ภาพนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็กลายเป็นที่ถกเถียงกันมาก โดยเฉพาะในประเด็นว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสมหรือไม่ โดยทนายได้ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ว่า ระเบียงถือเป็นที่สาธารณะ และสามารถมองเห็นได้ การทำอนาจารที่ระเบียง จึงถือว่าเป็นการลามกอนาจารในที่สาธารณะ หรือ การเปิดเผยส่วนลับภายในพื้นที่สาธารณะ มีโทษจำคุก 6 เดือน และ ปรับ 9,000 บาท

รวมถึงการถ่ายคลิปนั้นก็ถือมีความผิดด้วยเช่นเดียวกัน โดยผู้ที่ถ่ายไปเพื่อเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ มีสิทธิ์ถูกปรับเงินสูงถึง 4.5 ล้านบาท และอาจโดนโทษจำคุกด้วย อย่างไรก็ดี หากจุดประสงค์ของการถ่ายคลิปคือการเก็บหลักฐานไปแจ้งกับตำรวจจะถือว่าไม่มีความผิด

จีน ประสบปัญหา ข้อมูลส่วนตัวรั่ว มีผู้เสียหายรับพันล้านกว่าราย

ล่าสุดนี้ได้มีการรายงานถึงการพบเจอการประกาศขายข้อมูลที่เป็น ข้อมูลส่วนตัวรั่ว จากประเทศ จีน โดยคาดว่าจะมีผู้ได้รับผลกระทบนับพันล้านกว่าราย (6 ก.ค. 2565) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการรายงานถึงการพบประกาศขายข้อมูลที่เป็น ข้อมูลส่วนตัวรั่ว จากประเทศ จีน โดยมีขนาดข้อมูลถึง 23TB และทำการวางขายในมูลค่า 10 Bitcoin (200,000 ดอลลาร์) ซึ่งก็คาดว่าจะมีผู้เสียหายจากข้อมูลดังกล่าวถึงพันล้านกว่าราย

โดยจากการเปิดเผยของ Hacker ผู้ประกาศขายข้อมูลนั้น ข้อมูลดังกล่าวมาจากฐานข้อมูลที่ทำการรวบรวมโดยหน่วยงานตำรวจประจำเมืองเซี่ยงไฮ้ และภายในฐานข้อมูลที่ว่านี้ เป็นข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ ของประชาชนชาวจีนจำนวน 1 พันล้านราย ไม่ว่าจะเป็น ชื่อ, ที่อยู่อาศัย, เบอร์โทรศัพท์มือถือ, เลขประจำตัวประชาชน, อายุ และที่เกิด รวมไปถึงบันทึกเสียงการโทรติดต่อระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ และประชาชนอีกด้วย

ในเวลานี้ผู้ประกาศขายได้ทำการปล่อยตัวอย่างข้อมูลของผู้เสียหายจำนวน 750,000 รายออกมาก่อนแล้ว ซึ่งทาง CNN สำนักข่าวที่นำเสนอนั้นก็ได้ทำการตรวจสอบถึงความถูกต้องของข้อมูลดังกล่าวไปแล้วถึง 2 โหล (24 หน้า) จากตัวอย่างดังกล่าว

ทางด้านของผู้ขายได้เปิดเผยว่าฐานข้อมูลที่ไม่มีการป้องกันที่ว่านั้น ได้ถูกให้บริการโดย Alibaba Cloud และเมื่อทาง CNN ได้ทำการสัมภาษณ์กับทางบริษัทแล้วนั้น ก็ได้รับการตอบกลับมาว่า “เรากำลังจัดการในเรื่องนี้อยู่” และต่อมาทางบริษัทก็ได้ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม รวมไปถึงทางหน่วยงานประจำเมืองเซี่ยงไฮ้ด้วยเช่นกัน

การรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัวแบบมหาศาลเช่นนี้นั้น ก็เริ่มจะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ อาทิ ในปี 2018 บริษัทการตลาดในรัฐฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา ได้หลุดข้อมูลส่วนตัวขนาด 2TB ออกมาบนเซิฟเวอร์สาธารณะที่สามารถเข้าถึงได้, ปี 2019 ได้มีการค้นพบฐานข้อมูลส่วนตัวของประชากรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่มลฑลซินเจียง ที่สามารถส่งผลต่อผู้คนได้ถึง 2.5 ล้านราย ของบริษัท SenseNets Technology

การพบเจอข้อมูลดังกล่าวนี้ ถือว่าเป็นการตบหน้าความพยายามในการพัฒนาระบบป้องกันการโจรกรรมข้อมูลของรัฐบาลจีนที่เริ่มดำเนินการเมื่อปีที่ผ่านมา

หลังจากเพื่อนบ้านคนดังกล่าว ถามน้องว่าต้องการให้ช่วยหรือไม่ ปรากฏ น้องร้องไห้และขอให้ช่วย โดยบอกว่าหากไม่มีใครช่วยจะตัดสินใจจบชีวิต เพราะทนไม่ไหวแล้ว เพื่อนบ้านมีการแนะนำให้เด็กเอาเรื่องปรึกษาพี่ชายแท้ๆ อายุ 18 ปี เพื่อพาเข้าแจ้งความ แต่พี่ชายปฏิเสธ เนื่องจากกลัวพ่อจะเอาเรื่อง

แนะนำ : ดูดวงไพ่ยิปซี | รีวิวที่พัก | รีวิวคาเฟ่ | วิธีลดน้ำหนัก | รีวิวอนิเมะ ญี่ปุ่น